ซีกฟรีด - รอยซีกฟรีด ฟิสช์บาเชอร์ (Siegfried Fischbacher) เกิดวันที่ 13 มิถุนายน 1939 ที่ โรเซ็นเฮม และ รอย ฮอร์น (Roy Horn) เกิดวันที่ 3 ตุลาคม 1944 ที่ นอร์เดนแฮม ต่างก็เกิดที่ประเทศเยอรมัน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้อพยพมาอยู่สหรัฐอเมริกา ซึ่งตอนนี้พวกเขาเป็นประชาชนอเมริกาอย่างเต็มตัวแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงความเป็นชาวเยอรมัน อยู่ ในปี 2002 พวกเขาได้รับเกียรติให้เดินนำขบวนพาเหรดของ German-American Steuben Parade ในฐานะจอมพลซีกฟรีด เป็นนักมายากลแบบดั้งเดิม ในขณะที่ รอย เติบโตมาท่ามกลางสัตว์หลากหลายชนิด และเขาก็มีความเป็นมิตรกับสัตว์เหล่านั้นด้วยพวกเขาพบกันในปี 1959 ในการทำงานร่วมกันบนเรือ Garman Ocean โดยซีกฟรีด เป็นสจ๊วต ในขณะที่รอย ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ ซีกฟรีด เริ่มการแสดงมายากลด้วยการแสดงต่อหน้าผู้โดยสาร โดยมี รอย เป็นผู้ช่วย ในขณะที่ไม่มีใครรู้เลยว่า รอย ได้ลักลอบนำเข้าเสือชีตาชื่อว่า ชิโก้ โดยซ่อนมันไว้ในเรือ เขารู้จัก ชิโก้ จากการที่เขาไปเที่ยวที่สวนสัตว์ในเบรเมนบ่อยๆ หลังจากร่วมกันพัฒนาการแสดงมาโดยตลอด พวกเขาก็ได้แสดงโชว์ที่ลาส เวกัส ในปี 1972 พวกเขาได้รับรางวัลโชว์ยอดเยี่ยมแห่งปี ในปี 1990 สตีฟ วินน์ (Steve Wynn) ผู้จัดการ โรงแรม เดอะ มิราจ ก็จ้างเขาทั้งสองคนให้แสดงโชว์ที่โรงแรมโดยการันตีค่าตัวอยู่ที่ 57.5 ล้านดอลลาร์ต่อปี

โชว์ที่ใช้สัตว์ร่วมแสดงในปี 1999 พวกเขารับ ดาร์เรน โรมีโอ (Darren Romeo) มาอุปถัมภ์ โดยดูแลเป็นสปอนเซอร์ และฝึกสอนเขาต้นปี 2000 พวกเขาเซ็นสัญญาตลอดชีพกับโรงแรม พวกเขาร่วมกันแสดงโชว์มาแล้วกว่า 5,750 โชว์ และส่วนใหญ่ก็เป็นการแสดงที่ เดอะ มิราจ การแสดงอันยาวนานของพวกเขาต้องปิดตัวลงในวันที่ 3 ตุลาคม 2003 หลังจาก รอย ถูกทำร้ายระหว่างการแสดงโดยเสือตัวหนึ่งของเขาในวันที่ 3 ตุลาคม 2003 ระหว่างการแสดงโชว์ที่ เดอะ มิราจ รอย ฮอร์น ถูกเสือวัย 7 ปีชื่อ มอนเตคอร์ กัดเข้าที่ไหล่ ทีมงานพยายามที่จะช่วยเขาออกมา และนำส่ง University Madecal Center ในขณะนั้น ฮอร์น ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก และเสียเลือดมาก แต่ในขณะที่เขาถูกพาไปโรงพยาบาล เขาก็บอกว่า "อย่าทำร้ายเสือ"รอย ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนานหลายสัปดาห์ เขามีอาการเป็นอัมพาตบางส่วน และเส้นเลือดมีการอุดตัน หมอจึงผ่าตัดเอากะโหลกออก 1 ใน 4 เพื่อระบาย และลดการบวมของสมอง จากนั้นเขาก็ถูกย้ายไปที่ UCLA Medical Center ใน ลอส แองเจเลส, แคลิฟอเนีย เพื่อฟื้นฟูร่างกาย มอนเตคอร์ เสือตัวที่กัด รอย นั้น เขานำมันมาฝึกสอนมาตั้งแต่มันยังเด็ก และมันก็แสดงในโชว์ดังกล่าวมาเป็นเวลากว่า 6 ปีแล้ว ซีกฟรีด ให้สัมภาษณ์ในรายการ แลร์ลี่ย์ คิง ว่าในขณะนั้น มอนเตคอร์ พยายามจะพา รอย ไปในที่ๆ ปลอดภัย ตามสัญชาติญาณของแม่เสือที่ต้องการคาบลูกเสือไปไว้ในที่ๆ ปลอดภัย แต่มันไม่รู้ว่าคนเราไม่เหมือนกับเสือ เราไม่มีหนังหนาและขนปกคลุมที่จะให้มันสามารถคาบเราไปไหนๆ ได้ นั่นส่งผลให้ รอย ได้รับบาดเจ็บ มอนเตคอร์ ไม่มีความตั้งใจที่จะทำร้าย รอย เลย ด้าน สตีฟ วินน์ อดีตเจ้าของ เดอะ มิราจ ก็ให้สัมภาษณ์กับ KLAS-TV ว่าเหตุการณ์เป็นไปอย่างที่ ซีกฟรีด เล่า นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่าตอนนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่หน้าเวที ที่แสดงอาการว่าชื่นชอบ คลั่งไคล้ มอนเตคอร์ มากและอยากเล่นกับมัน แต่ รอย พยายามยืนขวางระหว่างเธอกับเสือ เพื่อป้องกันอันตราย มอนเตคอร์ ทำท่าคว้าแขน รอย เบาๆ และ รอย พยายามบอกมันให้ปล่อย แต่มันไม่ยอม จนกระทั่ง รอย ก็ตีมันด้วยไมโครโฟน และกระโดดขึ้นขี่หลังมัน จากนั้น เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเวทีซึ่งตกใจกับเหตุการณ์นั้นก็วิ่งออกมาหวังจะช่วย แต่จากการวิ่งเข้ามาช่วยนั่นเองทำให้เสือสับสน เข้าใจว่าเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง และมันก็พยายามพา รอย ออกไปจากที่เกิดเหตุเพื่อความปลอดภัย ทำให้เกิดความชุลมุน และ รอย จึงได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ป้ายหน้า เดอะ มิราจ ที่ไม่มีให้เห็นอีกแล้วมอนเตคอร์ ถูกขังไว้เป็นเวลา 10 วันเพื่อให้มั่นใจว่ามันไม่ได้เป็นโรคกลัวน้ำ จากนั้นมันจึงได้กลับไปที่ เดอะ มิราจ อีกครั้ง แม้ รอย จะบอกว่า มอนเตคอร์ ไม่ทำร้ายใคร แต่เหตุการณ์นี้ก็ทำให้ผู้คนต้องคำนึงถึงการแสดงโชว์โดยใช้สัตว์มากขึ้น แม้สัตว์พวกนี้จะสามารถนำมาฝึกได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเชื่องเสมอไป พวกมันยังคงเป็นสัตว์ป่าซึ่งไม่มีวันจะเป็นสัตว์เลี้ยงไปได้ การบาดเจ็บของ รอย ฮอร์น ทำให้ เดอะ มิราจ ต้องปิดโชว์นี้ และทำให้พนักงานต้องตกงานถึง 267 คน จากเหตุการณ์นี้ มีรายงานว่า เดอะ มิราจ ต้องสูญเสียรายได้มหาศาลไม่เพียงแต่ค่าเข้าชมที่ได้อย่างต่ำปีละ 45 ล้านดอลล่าร์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงรายได้จากการขายอาหาร ห้องพัก และจากคาสิโน ด้วย ประชาสัมพันธ์ของ เดอะ มิราจ กล่าวว่า การสูญเสีย ซีกฟรีด และรอย เป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ต่อชื่อเสียงของ เดอะ มิราจ รวมไปถึงการเงินของโรงแรมด้วย จากการจัดอันดับผู้มีชื่อเสียง 100 อันดับในปี 2000 ซีกฟรีด และรอย เป็นบุคคลที่ทำเงินมากที่สุดเป็นอันดับที่ 9 ในอเมริกา ตามหลังคนดังหลายๆ คนเช่น สตีเว่น สปีลเบิร์ก
ปัจจุบัน : รอย - ซีกฟรีดซีกฟรีด และรอย ยังมีชื่อใน Hollywood Walk of Fame ด้วย โดยอยู่ที่ 7060 Hollywood Boulevardในปี 2007 พวกเขาประกาศว่ามีความตั้งใจที่จะเขียนหนังสือเพื่อเล่าเรื่องราวทั้งหมดของพวกเขา ซึ่งรวมถึงเรื่องที่พวกเขาเป็นเกย์ และครั้งหนึ่งเคยเป็นคู่รักกัน แต่เมื่อความสัมพันธ์สิ้นสุดลงแล้วพวกเขาก็ยังคงเป็นคู่หู และเพื่อนที่ดีต่อกัน รวมไปถึงเรื่องที่พวกเขาติดยาด้วย*โรงภาพยนตร์ IMAX รัชโยธิน เคยนำเอาภาพยนตร์ 3 มิติของ ซีกฟรีด และรอย Siegfried & Roy the Magic Box มาฉายเมื่อปี 2000
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
www.siegfriedandroy.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น