
ฮูดินี่ เป็นลูกคนที่ 5 ของนักบวชชาวฮังกาเรียน ซึ่งอพยพไปอยู่อเมริกาที่เมืองแอพเพิลตั้น รัฐวิสคอนซิล เกิดเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2417 โดยพ่อแม่ตั้งชื่อในครั้งแรกว่าอีริค เวสส์ เขาสนใจการแสดงตั้งแต่ได้ดูละครสัตว์ครั้งแรกเมื่ออายุ 6 ขวบ พออายุ 9 ขวบ ก็ร่วมแสดงกับคณะละครสัตว์ด้วยการผูกข้อเท้าแขวนเอาหัวห้อยลง ใช้เปลือกตาหยิบเข็มจากพื้นได้อย่างง่ายดายพออายุได้ 16 ก็เปลี่ยนชื่อเป็นแฮรี่ ฮูดินี่ เพื่อให้คล้องกับฮูแด็ง ชื่อของนักแสดงผู้โด่งดังชาวฝรั่งเศสฮูดินี่ ถูกตำรวจซานฟรานซิสโก ลองดีใส่กุญแจมือแล้วขังไว้ในห้องขังอย่างแน่นหนาไม่กี่นาทีเขาก็หนีออกมาได้อย่างสบาย ก็ไม่วายที่จะถูกลองซ้ำให้ใส่กุญแจมือเขาอย่างเดิมแล้วยัดลงในหีบไม้ปิดฝาตอกตะปู เอาเชือกมัดอย่างแน่นตึงโยนลงน้ำถ่วงด้วยสมอ ไม่กี่นาทีเขาก็โผล่ตัวเปล่าขึ้นจากน้ำอย่างร่าเริง คงไม่มีการแสดงครั้งไหนที่ตื่นเต้นหวาดเสียวเหมือนเมื่อปี 2449 ที่เมืองดีทรัวท์ โดยใส่กุญแจมือทั้งสองติดกันแล้วมัดลำตัวให้แน่นด้วยโซ่ ให้เขาพุ่งลงยังพื้นน้ำที่เป็นน้ำแข็งซึ่งมีช่องโหว่พอตัวลงได้พอดีคนดูไม่สบายใจกระวนกระวายอยู่ 6 นาทีฮูดินี่ จึงโผล่ขึ้นมาโดยปราศจากโซ่และกุญแจ การแสดงของเขาไม่ใช่เล่นกลหรือหลอกลวงแต่อย่างใดมันเป็นการแสดงถึงความสามารถในการช่วยตัวเองให้พ้นจากพันธนาการ เรียกการแสดงของเขาว่าการแสดงปาฏิหารย์ และเขาก็จบชีวิตลงด้วยการแสดงปาฏิหารย์ผิดพลาด เมื่อพ.ศ.2469 ในการแสดงที่มอนตรีล แต่โชคดีเขาได้บันทึกเคล็ดลับไว้ก่อนตาย สั่งให้สำนักงานทนายความในนิวยอร์คเปิดซองในวันที่ 6 เมษายน 2517 วันนั้นผู้ที่เฝ้ารอคอยก็ได้ล่วงรู้เคล็ดลับของเขาว่าทำยังไงเป็นที่ยอมรับกันว่าในรอบศควรรษที่ผ่านมา ไม่มีนักวิทยากลคนใดที่จะมีชื่อเสียงก้องโลกเท่ากับเค้าคนนี่แฮรี่ ฮูดินี่ ผู้ที่ยอมให้ผู้ชมนำกุญแจมือและโซ่ตรวนมาจากบ้านแล้วพันธนาตัวเขาอย่างแน่นหนาก่อนที่จะโยนลงไปในแม่น้ำที่เย็นเฉียบอุณภูมิเกือบ 0 องศาฯ หากว่าเขาไม่สามารถช่วยตัวเองให้หลุดพ้นจากกุญแจมือและโซ่ตรวนที่พันกายอยู่เกินหนึ่งหรือสองนาที ก็เป็นที่แน่นอนว่าเขาต้องจมน้ำตายอยู่ตรงจุดที่เขาแสดงนั่นเองผู้ที่เคยชมการแสดงของเขาแทบทุกคนต่างมีความสงสัยว่าฮูดินี่ ทำเช่นนั้นได้อย่างไร เพราะนักวิทยากลคนอื่นๆ ยังไม่มีใครที่มีความสามารถทัดเทียมกับเขาได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องราวถึงเบื้องหลังความสำเร็จของยอดนักมายากลผู้นี้ เพราะกว่าที่เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นนักมายากลผู้ยิ่งใหญ่ของโลกได้ ก็ต้องใช้เวลากับการฝึกฝนในศิลปะชนิดนี้อยู่นานไม่น้อยทีเดียวการสะเดาะกุญแจมือ ในตอนที่ยังหนุ่มฮูดินี่ ให้ความสนใจกับเรื่องกุญแจมือที่ตำรวจใช้ในการควบคุมตัวผู้ต้องหามากที่สุด เขาได้หาซื้อกุญแจมือเหล่านั้นทุกชนิดมาศึกษาอย่างละเอียด เพื่อหาทางสะเดาะมันออกโดยไม่ต้องใช้ดอกกุญแจ เพราะเห็นว่าการแสดงกลไพ่กำลังฮิตอยู่ในสมัยนั้นมันจะทำให้เขามีชื่อเสียงอยู่ไม่นาน ฮูดินี่ คิดว่าหลังจากนั้นเขาค้นคว้ามายากลทางด้านการสะเดาะกุญแจได้สำเร็จแล้วเขาจะเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้นำกุญแจมือมาสับข้อมือของเขาทั้งสองต่อหน้าผู้ชมและจะทำการสะเดาะกุญแจให้หลุดออกจากมือโดยไม่ต้องใช้ดอกกุญแจ และความช่วยเหลือจากใครภายในเวลาไม่กี่วินาที เริ่มต้นเขาได้ตระเวนหาซื้อกุญแจมือทุกชนิดเท่าที่จะหาซื้อได้มาศึกษาถึงเรื่องกลไกของมันอย่างละเอียดก่อน ต่อจากนั้นเขาก็ไปหาช่างทำกุญแจผู้มีชื่อเสียงทั้งหลาย เพื่อจะแลกเปลี่ยนทัศนะและความคิดซึ่งกันและกัน หลังจากนั้นเขาได้คิดค้นวิธีสะเดาะกุญแจมือทุกชนิดด้วยตัวเองจนกระทั่งเขามีความชำนาญ และยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้ศึกษาถึงการสะเดาะโซ่ตรวนผูกขานักโทษร้ายแรงในเรือนจำโซ่ตรวนที่ตรึงขานักโทษไว้ทั้งสองข้างนั้นมิได้ใช้ระบบกุญแจ แต่ใช้ห่วงเหล็กขนาดใหญ่ประกบเข้าหากันด้วยเครื่องหนีบโซ่ตรวนซึ่งต้องใช้พลังมาก เมื่อถึงวันทำการแสดงการสะเดาะโซ่ตรวนเป็นครั้งแรกฮูดินี่ ได้ขอให้ตำรวจนำกุญแจมือและโซ่ตรวนตรึงขาของกองตำรวจเองมาใช้ในการแสดง เริ่มต้นเขาถูกใส่กุญแจมือไว้อย่างแน่นหนาทั้งสองข้าง แล้วจึงใช้โซ่ตรวนตรึงขาของเขาทั้งสองไว้ อย่างเดียวกับที่ปฏิบัติกับนักโทษทั้งหลาย ต่อจากนั้นก็นำเขาไปขังไว้ในห้องขังลูกกรงเหล็ก ภายในห้องขังที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเปลื้องเสื้อผ้าของเขาออกหมดเสียก่อนจะนำตัวเข้าสู่ห้องขัง ทั้งนี้เพื่อจะให้ทุกคนแน่ใจว่าเขาไม่ได้นำดอกกุญแจหรือสิ่งใดซ่อนเร้นไปกับตัว ในวันรุ่งขึ้นฮูดินี่ ได้ปรากฏตัวที่หน้าโต๊ะทำงานของสารวัตรตำรวจหัวหน้าสถานีตำรวจแห่งนั้นแต่เช้าตรู่ในสภาพล้อนจ้อนนุ่งกางเกงในเพียงตัวเดียวเช่นตอนที่นำเข้าสู่ห้องขังซึ่งตำรวจผู้มีหน้าที่เฝ้ายามคืนนั้นต่างให้การเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขาไม่รู้ว่าฮูดินี่ สะเดาะโซ่ตรวนและกุญแจมือหนีออกจากห้องขังได้อย่างไรกัน การแสดงครั้งนี้ของฮูดินี่ ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง หนังสือพิมพ์ลงข่าวนี้อย่างคึกโครมเป็นเวลาติดต่อกันหลายวัน แต่เพราะเหตุที่การแสดงของเขาเกี่ยวกับการแหกห้องขังและการสะเดาะกุญแจครั้งนั้นเป็นการแสดงครั้งแรก ผู้คนส่วนใหญ่จึงยังไม่เชื่อว่าฮูดินี่ สามารถสะเดาะกุญแจทุกชนิดได้จริง มีนักคอลัมนิสต์บางคนให้คำวิจารณ์ออกมาว่าฮูดินี่ อาจเข้าไปในคุกด้วยเงินปึกหนึ่งในกำมือ และเขาใช้เงินปึกนั้นเองในการพาตัวออกจากห้องขังซึ่งคำวิจารณ์ดังกล่าวเป็นคำเสียดสีที่มีความหมายว่าฮูดินี่ ไม่ได้แหกห้องขังหรือทำการสะเดาะกุญแจต่างๆ ด้วยฝีมือของเขาเองหรอก เพียงแต่เขาใช้เงินจ้างวานเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้เท่านั้น แต่เมื่อการแสดงของฮูดินี่ ในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า และเขายินดีให้ใครก็ได้ที่ยังสงสัยในความสามารถของเขาเป็นผู้มาจัดการใส่กุญแจมือ และคุมห้องขังด้วยตัวเอง ซึ่งทุกครั้งเขาก็สามารถทำได้ไม่มีการผิดพลาดแม้แต่ครั้งเดียว สำหรับวิธีการสะเดาะและการแหกห้องขังของฮูดินี่ นั้นเขาจะปกปิดไว้เป็นความลับที่สุด โดยไม่ยอมถ่ายทอดให้แก่ผู้ใด ซึ่งทั้งนี้เขาได้ให้เหตุผลว่าหากความรู้ดังกล่าวแพร่หลายออกไปแล้ว คุกหรือห้องขังของตำรวจก็จะไม่มีความหมายกับพวกโจรแต่อย่างใด และด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้ฮูดินี่ รักษาความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ติดตัวไปจนตายการหนีออกจากตู้นิรภัยขนาดใหญ่ การแสดงครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งของแฮรี่ ฮูดินี่ คือหนีออกจากตู้นิรภัยขนาดใหญ่ที่เชื่อว่ามั่นคงแข็งแรงและปลอดภัยที่สุดสำหรับเก็บทรัพย์สินในสมัยนั้น การแสดงเริ่มต้นด้วยการเขียนจม.ท้าทายจากนายเจ อาร์ ปอล นักทำตู้นิรภัยที่มีผลงานอันเป็นที่เชื่อถือได้ในสมัยนั้น ข้อความในจดหมายดังกล่าวความว่า : เรียนคุญแฮรี่ ฮูดินี่ ที่นับถือ ผมได้สร้างตู้นิรภัยขนาดใหญ่มีน้ำหนัก 800 กว่ากิโลกรัมไว้ใบหนึ่งผมเชื่อว่าตู้นิรภัยใบนี้มีระบบใส่กุญแจอัตโนมัติที่ซับซ้อนที่สุดตั้งแต่ผมเคยสร้าง ซึ่งผมมั่นใจว่ามันจะสามารถป้องกันการโจรกรรมจากขโมยอาชีพได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ดังนั้นผมจึงอยากจะกล่าวว่าหากท่านมีความสามารถในการสะเดาะกุญแจทุกชนิดแล้วละก็ลองเข้าไปอยู่ในตู้นิรภัยใบนี้ของผมดูสักครั้งเป็นไง หากคุณสามารถช่วยตัวเองออกมาได้ สิ่งที่ผมจะต้องสูญเสียก็คือจะไม่มีผู้ใดสั่งซื้อตู้นิรภัยของผมอีกต่อไป และนั่นหมายถึงการสิ้นสุดในอาชีพนี้ของผมซึ่งกำลังเฟื่องฟูอยู่เต็มที่ในเวลานี้ แต่ในทางที่กลับกันหากคุณไม่สามารถออกจากตู้นิรภัยของผมใบนี้ได้ มันก็เป็นโฆษณาที่ดีให้กับผลิตภัณฑ์ของผม เพราะในเมื่อแฮรี่ ฮูดินี่ ยังไม่สามารถเอาชนะระบบกุญแจอันซับซ้อนในตู้นิรภัยของผมได้แล้ว โจรหรือขโมยคนไหนล่ะ ที่จะสามารถเปิดตู้นิรภัยของผมออกได้ ถ้าคุณสนใจในข้อเสนอของผมโปรดแจ้งความประสงค์มาทันทีผมจะจัดการนำตู้นิรภัยใบนี้ไปทำการทดสอบต่อหน้าประจักษ์พยานในสถานที่หนึ่งที่ใดก็ได้ตามความสะดวกของคุณด้วยความเคารพนับถือเจ อาร์ ปอลหลังจากอ่านจม. ฉบับนั้นแล้วฮูดินี่ ก็ยอมรับคำท้าทันที การแสดงครั้งนั้นกระทำที่โรงภาพยนตร์อุสตัน พาเลช ในกรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ.1908 ภายใต้การเฝ้าดูของผู้ชมจำนวนคับคั่งแน่นโรงละคร เมื่อการแสดงเริ่มต้นขึ้นฮูดินี่ ได้เข้าไปในตู้นิรภัยใหญ่ใบนั้น ขณะที่นายเจ อาร์ ปอล ได้ทำการล็อกประตูตู้เหล็กด้วยตัวเองเพื่อความมั่นใจการสะเดาะประตูตู้นิรภัยครั้งนี้ของฮูดินี่ ครั้งนี้ผิดกับการแสดงการสะเดาะกุญแจมือที่เคยแสดงมาก่อน เพราะต้องสะเดาะออกมาจากภายในตู้เหล็กที่ไม่มีทางสอดสิ่งใดเข้าไปในรูกุญแจได้และภายในตู้นิรภัยใบนั้นก็มีอากาศจำกัดหากเขาต้องใช้เวลานานเกินไป เขาอาจขาดออกซิเจนตายไปเสียก่อนก็ได้ เมื่อจัดการล็อกประตูนิรภัยเรียบร้อยแล้วทางเจ้าหน้าที่ได้นำม่านสีดำมาล้อมปิดตู้เอาไว้เพื่อไม่ให้ผู้ชมหรือบุคคลอื่นๆ เห็นได้ว่าเขาใช้วิธีใดออกมาจากตู้นิรภัยใบนั้นส่วนนายเจ อาร์ ปอล และเจ้าหน้าที่ทุกคนก็ต้องไปยืนรออยู่ห่างๆ หน้าเวทีโรงภาพยนตร์แห่งนั้นเช่นเดียวกันเป็นเวลานานที่ผู้ชมทั้งหมดในโรงภาพยนตร์ต่างเฝ้าดูด้วยความตื่นเต้น เพราะหากฮูดินี่ ใช้เวลานานเกินไปเขาอาจตาย และเมื่อเวลาผ่านพ้นไปนานพอสมควรจะเชื่อได้ว่าฮูดินี่ ไม่สามารถออกมาจากตู้นิรภัยใบนั้นได้แล้วเจ้าหน้าที่ก็ได้เปิดม่านออกเพื่อจะให้นายเจ อาร์ ปอล ทำการเปิดตู้นิรภัยด้วยตนเองต่อไป แต่เมื่อผ้าม่านถูกเปิดออกผู้ชมทั้งหมดต่างเห็นฮูดินี่ นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ข้างๆ ตู้นิรภัยใบนั้นอย่างสบายอารมณ์อยู่ก่อนแล้วทุกคนต่างพากันหายใจอย่างโล่งอกเพราะเขารอดพ้นจากความตายออกมาได้การหนีออกจากเสื้อรัดตัว ในขณะที่ฮูดินี่ เดินทางไปแสดงมายากลทั่วประเทศแคนาดา ในปีค.ศ. 1894 นั้น เขาได้เห็นหมอในโรงพยาบาลโรคจิตของประเทศนั้นใช้เสื้อแจ็คเก็ตรัดตัวคนไข้ในขณะที่คนป่วยโรคจิตเหล่านั้นอยู่ในอาการบ้าคลั่ง สำหรับคนป่วยโรคจิตเป็นที่รู้กันทั่วไปว่าหากเกิดอาการบ้าคลั่งขึ้นมาแล้วเขาจะมีพลังมหาศาลที่คนอื่นไม่อาจจับเอาไว้อยู่ ดังนั้นทางโรงพยาบาลโรคจิตจึงได้สร้างเสื้อรัดตัวสำหรับใส่ให้ผู้ป่วยที่กำลังอยุ่ในอาการบ้าคลั่ง ซึ่งผู้ป่วยไม่สามารถถอดเสื้อตัวนั้นออกได้เลย จึงจำเป็นต้องสงบสติลงไปเองในที่สุด ฮูดินี่ ได้ขอยืมเสื้อรัดตัวคนไข้ชนิดนี้จากโรงพยาบาลประสาทแห่งนั้น เพื่อไปศึกษาเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ จากนั้นเขาก็เสนอการแสดงการเอาตัวรอด จากเสื้อแจ็คเก็ตชนิดนั้นให้ได้ ซึ่งก็ได้มีการทดลองต่อหน้าผู้ชมจำนวนมากซึ่งทางโรงพยาบาลได้นำเอาเสื้อรัดตัวคนไข้ตัวใหม่ที่เชื่อว่าแข็งแรงที่สุดนำมาทดสอบกับเขา หลังจากที่ทำการสวมเสื้อตัวนั้นและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจัดการรัดไว้อย่างแน่นหนาแล้ว ฮูดินี่ ก็สามารถเอาตัวหลุดออกจากเสื้อดังกล่าวได้ภายในเวลาไม่ถึง 3 นาที การแสดงเอาตัวรอดจากเสื้อรัดตัวคนป่วยโรคจิตของฮูดินี่ กระทำต่อหน้าฝูงชนมากมายหลายครั้งด้วยกัน แต่ครั้งที่ยากที่สุดก็คือการแสดงในเยอรมัน ที่ตำรวจเยอรมันได้นำเอาเสื้อชนิดเดียวกันแต่แข็งแรงและรัดได้แน่นกระชับกว่ามาทำการทดลอง เสื้อตัวนั้นเมื่อใส่และรัดสายหนังไว้ทางเบื้องหลังเรียบร้อยแล้ว ความแน่นของมันทำให้เขาหายใจแทบไม่ออกเลยทีเดียวฮูดินี่ ต้องใช้เวลาครั้งนั้นนานถึง 90 นาที เต็มกว่าจะเอาตัวรอดออกมาได้ แต่ถึงกระนั้นก็เป็นที่ยอมรับของผู้ชมว่าเขามีความสามารถจริงๆการเอาตัวรอดใต้น้ำ การแสดงที่นับว่ายิ่งใหญ่ที่สุดของฮูดินี่ ก็คือการให้ผู้ชมใส่กุญแจมือ รวมกันไว้ทั้งสองข้างแล้วนำไปใส่ในหีบใส่กุญแจอย่างหนาแน่นอีกครั้งหนึ่ง เสร็จแล้วก็นำหีบใบนั้นโยนลงในลำคลองหรือแม่น้ำที่มีน้ำเย็นจัด การแสดงวิธีนี้มันหมายถึงเขาต้องทิ้งชีวิตภายใต้พื้นน้ำที่เย็นจัดทันทีหากเขาไม่สามารถเอาตัวรอดออกมาจากหีบในนั้นและสะเดาะกุญแจมือออกได้ภายในเวลาจำกัด ฮูดินี่ มีความสามารถพิเศษอยู่อย่างหนึ่งที่ผิดกับคนธรรมดา กล่าวคือเขาสามารถจะกลั้นลมหายใจได้นานกว่าคนอื่นถึงสามถึงสี่เท่าตัว และสิ่งนี้เองที่ทำให้เขารอดพ้นจากเครื่องพันธนาการใต้น้ำและเอาชีวิตรอดได้ แต่ก็มีบางครั้งเหมือนกันที่เขาแทบจะเอาชีวิตไม่รอด อย่างเช่นในการแสดงในเมืองดีทรอยด์ ในปี ค.ศ. 1809 นั้นเขาถูกใส่กุญแจมือทั้งสองข้างแล้วใส่ในหีบปิดฝาใส่กุญแจแน่นหนาอีกครั้งหนึ่งก่อนจะโยนลงไปจากสะพานเบลเล ไอเซิล ที่มีน้ำเย็นเฉียบอยู่ด้านล่าง พื้นน้ำตรงนั้นมีความลึกถึง 25 ฟุตและและมีแผ่นน้ำแข็งจากทางเหนือลอยมาเป็นแพเต็มไปหมด ฮูดินี่ ต้องใช้เวลานานพอสมควรในการแสดงครั้งนั้นจนทำให้ใครๆ ที่เฝ้าชมอยู่ริมฝั่งและบนสะพานต่างคิดว่าเขาคงเสียชีวิตแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ก็เกือบจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะเมื่อเขาโผล่ขึ้นมาก่อนจะถึงพื้นน้ำนั้นแผ่นน้ำแข็งแผ่นใหญ่ได้ลอยมาอยู่ตรงศรีษะพอดี ฮูดินี่ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังในตอนหลังว่าตอนที่ศรีษะของเขาชนกับแผ่นน้ำแข็งที่อยู่เหนือศรีษะนั้น โชคดีที่ยังมีช่องว่างระหว่างแผ่นน้ำแข็งกับพื้นน้ำให้เขาดันจมูกขึ้นหายใจสูดอากาศเอาไปได้บ้าง เขาจึงสามารถดำน้ำรอดพ้นจากแผ่นน้ำแข็งแผ่นนั้นมาได้การแสดงครั้งสำคัญในอังกฤษ ดูเหมือนว่าการแสดงเกี่ยวกับการสะเดาะกุญแจมือ ของฮูดินี่ นั้น ครั้งที่มีชื่อเสียงที่สุดคือการแสดงที่ฮิปโปโดมในกรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 1904 ซึ่งมีผู้ชมการแสดงหนาแน่นกว่า 4,000 คน และหลังจากจบการแสดงลงแล้ว หนังสือพิมพ์ต่างเอาไปเขียนข่าวอย่างครึกโครมติดต่อกันหลายวันเหตุที่ฮูดินี่ มีชื่อเสียงโด่งดังในครั้งนั้น ก็เพราะกุญแจมือที่เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันการโจรกรรมผู้มีความชำนาญในเทคนิคด้านนี้ได้จัดทำขึ้นเองทั้งหมด ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่อังกฤษ และผู้ชมเชื่อใจได้ว่าหากฮูดินี่ สามารถสะเดาะกุญแจมือได้ในครั้งนี้ เขาจะเป็นยอดอัจฉริยะทางมายากลที่ไม่มีผู้ใดเท่าเลย เมื่อการแสดงเริ่มขึ้นเขาถูกใส่กุญแจมือที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลอังกฤษสองอันในคราเดียวกัน หลังจากตรวจตราความมั่นคงของกุญแจนั้นแล้วฮูดินี่ ก็ถูกใส่ในถุงผ้าสีดำอีกต่อหนึ่งแล้วจัดการปิดปากถุง เสร็จแล้วเป็นเวลาฮูดินี่ เริ่มทำการสะเดาะกุญแจมือทั้งสองอันเอาตัวออกมาจากถุงผ้าสีดำนั้นเป็นเวลา 15.15 นาฬิกาพอดี ฝูงชนกว่า 4,000 คนต่างเฝ้าดูกันด้วยความตื่นเต้น เมื่อเวลาผ่านพ้นไปประมาณ 15 นาทีฮูดินี่ จึงได้โผล่ออกมาจากถุงผ้าใบนั้น ฝูงชนที่เฝ้าดูต่างร้องว่า "เขาทำสำเร็จแล้ว" แต่เหตุการณ์หาเป็นดังนั้นไม่ กุญแจมือทั้งสองอันยังอยู่ในมือของเขาอยู่ ที่เขาโผล่ศรีษะและยื่นมือออกมาจากถุงผ้าสีดำก็เพื่อจะดูกุญแจมือคู่นั้นภายใต้แสงสว่างจากดวงไฟภายในที่แสดงแห่งนั้นให้ชัดเจนจากนั้น เมื่อเวลา 15.37 น.เขาก็มุดเข้าไปในถุงผ้าสีดำอีก เขาใช้เวลาอยู่ 7 นาที จนถึงเวลา 15.44 น. เขาก็โผล่ออกมาใหม่โดยไม่มีกุญแจมือสวมติดไว้ที่ข้อมือของเขาแต่อย่างใดผู้ชมต่างตบมือให้เขาเป็นเวลานานที่สุดเท่าที่ผู้แสดงคนใดได้รับมาก่อน และเรื่องราวการแสดงของเขาในครั้งนี้เป็นที่พูดคุยกันของชาวลอนดอน เป็นเวลานานการหนีออกจากถังใส่นม ฮูดินี่ เคยแสดงการหนีออกจากถังใส่นมได้สำเร็จทุกครั้งที่มีการแสดง ทั้งๆ ที่ถังใส่นมเหล่านั้นต่างถูกปิดฝาและใส่กุญแจปากถังเอาไว้ข้างนอก แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาเกือบจะเสียชีวิตเพราะการแสดงแบบนี้ ทั้งนี้เพราะมีผู้ท้าทายให้เขาลงไปในถังเบียร์แทนถังนมซึ่งก็ได้ปิดฝาใส่กุญแจไว้ข้างนอกเช่นเดียวกันการแสดงครั้งนั้นเปิดขึ้นที่โรงภาพยนตร์ เอ็มไพร์ ในกรุงลอนดอน แต่หลังจากที่เขาถูกใส่กุญแจอยู่ในถังเบียร์แล้วฟองแอลกอฮอล์ภายในถังทำให้ฮูดินี่ ไม่สามารถปฏิบัติการเช่นที่เคยทำตอนถูกขังอยู่ในถังนมหรือถังใส่น้ำจนเต็มมาก่อนได้ และเมื่อเจ้าหน้าที่เห็นว่าเขาใช้เวลานานเกินควรคงจะมีอะไรผิดปรกติ เกิดขึ้นจึงได้รีบเปิดถังเบียร์นำร่างอันไร้สติของเขาออกมา การแสดงครั้งนั้นทำให้เขาเกือบเสียชีวิต และเขาก็ได้บทเรียนว่าการอยู่ภายใต้ของเหลวที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่นั้นมันทำให้เขาไม่สามารถจะทำอะไรได้ตามที่นึกคิดเอาไว้"บันทึกของฮูดินี่" ในบรรดาบันทึกต่างๆ ที่ฮูดินี่ เหลือทิ้งเอาไว้ให้บรรดานักมายากล รุ่นหลังได้ศึกษาค้นคว้าหาความรู้เกี่ยวกับการแสดงมายากล ก็คือวิธีแสดงเทคนิคพลิกแพลงในการปลดเครื่องพันธนาการต่างๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ฮูดินี่ เป็นนักมายากลที่มีชื่อเสียงมาก ผลงานการแสดงของเขาตั้งแต่ยุคเริ่มแรกได้ฝากความประทับใจให้แก่บรรดาผู้ชมนับจำนวนเป็นล้านๆ คน ซึ่งต่างก็ยอมรับกันว่าเขาเป็นยอดคน ที่สามารถเล็ดรอดจากเครื่องพันธนาการทุกชนิดได้อย่างน่าอัศจรรย์ และอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ บันทึกของฮูดินี่ เท่าที่มีหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันนี้สร้างความประหลาดใจให้แก่นักมายากลรุ่นหลังเป็นอย่างมากซึ่งต่างก็ไม่สามารถที่จะหาเงื่อนงำในการแสดงของฮูดินี่ ได้ เขามีวิธีการแสดงอย่างไรถึงสามารถพ้นเครื่องพันธนาการได้ทุกชนิด การแสดงกลของเขาไม่มีการบรรยายวิธีการแสดงไว้เป็นลายลักษณ์อักษรพอที่จะให้บุคคล ชนรุ่นหลังได้ถือเป็นแบบฝึกหัดปฏิบัติตามแต่อย่างใด ส่วนตัวของฮูดินี่ เองแล้วเขาใช้ความเคยชินและความชำนาญที่เขามีอยู่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัว ซึ่งไม่มีใครสามารถที่จะเข้าใจได้ดีนอกจากตัวของฮูดินี่ เอง บันทึกที่น่าสนใจตอนหนึ่งเกี่ยวกับการแสดงกลแบบนี้ปรากฏอยู่ในสมุดบันทึกเก่าๆ เล่มหนึ่งซึ่งไม่มีปกหุ้ม บันทึกเป็นตัวอักษรโดยเครื่องพิมพ์ดีด บางตอนมีภาพประกอบซึ่งใช้ดินสอเขียนเป็นแบบร่าง ฮูดินี่ เขาเป็นคนช่างสังเกต เขาจะจดบันทึกทุกสิ่ง ทุกอย่างที่เขาได้พบเจอลงไปในกระดาษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ ที่เขาได้พบเห็น แล้วเขาก็จะเก็บเอาสิ่งเหล่านั้นมาคิดแล้วลงมือทดลองปฏิบัติพร้อมกับดัดแปลงแก้ไขหาความชำนาญให้กับตัวเองโดยตลอด บันทึกบางอย่างของเขาเป็นการแสดงความคิดเห็น บางชิ้นเป็นแผนผังโครงร่างเกี่ยวกับการแสดง บันทึกต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วนี้ล้วนเป็นวิธีการของเขา เองทั้งสิ้น สำหรับวิธีการต่างๆ ที่นำมารวบรวมไว้เป็นวิธีที่รวมมาจากบันทึกต่างๆ ของเขาซึ่งนำมาดัดแปลง แต่งเติมให้ง่ายต่อการที่จะทำความเข้าใจให้เกิดขึ้นต่อการที่คนอื่นจะนำไปปฏิบัติตามภายหลัง มีข้อสังเกตอยู่หลายประการที่ทำให้เข้าใจว่า ฮูดินี่ เองก็ปรารถนาที่จะนำเอาบันทึกต่างๆ เหล่านี้ของเขาจัดพิมพ์รวบรวมเป็นเล่มอยู่เหมือนกัน แต่วิธีที่เขาจะทำก็เพียงแสดงให้รู้ว่าเป็นกลชุดใด ไม่มีการอธิบายใดๆ ว่ากลที่เขาทำอยู่นั้น ต้องปฏิบัติอย่างไร เพราะเขาไม่ต้องการที่จะเปิดเผยเคล็ดมายากลที่เขาเล่นอยู่ ในบันทึกนั้นมีมายากล อยู่หลายชุดที่เขาได้พิมพ์ไว้แล้วอย่างเรียบร้อย พร้อมที่จะนำออกไปตีแผ่ได้ทุกเมื่อ แต่ก็มีเพียงแค่บอกวิธีการจัดเตรียมสิ่งของเพียงเท่านั้น ส่วนการแสดงอื่นๆ ปรากฏว่าได้ขาดหายไป หรืออาจจะกล่าวได้ว่า เขาไม่ได้เขียนไว้ในบันทึกเลย เมื่อเขามีการแสดงโชว์การหนีจากเครื่องพันธนาการใดๆ ที่ต้องใช้อุปกรณ์การแสดงที่คล้ายๆ กัน เขาก็จะบอกว่ากลชุดแรกจะเล่น คล้ายๆ ชุดที่ 2 ซึ่งเขาเองจะไม่อธิบายวิธีการเล่นที่สมบรูณ์ให้คนอื่นรู้เลย จากเหตุผลดังกล่าวประกอบกับความลี้ลับต่างๆ ที่มีแฝงอยู่ในบันทึกเหล่านั้น เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาจะบันทึกเอาไว้ซึ่งขัดกับความเป็นจริงมาก ถึงแม้เขาจะเคยนำเอาสิ่ง ที่เขาบันทึกไว้มาแสดงให้ดูจริงๆ แล้วก็ตาม แต่บันทึกดังกล่าวก็ยังมีเงื่อนงำเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการสะเดาะกุญแจมือและการเล็ดรอดออกมาได้ จากการถูกผูกมัดด้วยเชือกของฮูดินี่ โดยวิธีต่างๆ มาอธิบายประกอบไว้บ้างพอเป็นแนวทาง บันทึกเหล่านั้นประกอบด้วยการแสดงอย่างน่าอัศจรรย์ในวิธีการของเขา ไว้เป็นส่วนมาก ส่วนบันทึกที่เข้าใจว่าเขาจะจัดพิมพ์เป็นการสุดวิสัยที่จะนำมาเผยแพร่ไว้ในที่นี้ได้ ปัจจุบันแฮร์รี่ ฮูดินี่ ได้เสียชีวิตแล้วจากความผิดพลาดในการแสดงของเขาเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น